จากภาพคือ Kevin Durant นักกีฬาจากทีม Phoenix Suns กำลังทดสอบ Countermovement Jump บนอุปกรณ์ Force Plate ก่อนเริ่มเกมส์ที่จะเจอกับ Los Angeles Lakers ในฤดูกาล 2023-24 วันที่ 27 ตุลาคม 66
คือช่วงนี้ผมค่อนข้างสนใจเรื่อง Force plate เเละการกระโดด เพราะไปอ่านหนังสือ “Takeoff: A Visual Guide to Training and Monitoring Lower Body Power” ของ Daniel Bove มา ซึ่งเจ้าตัวทำเกี่ยวกับ S&C ในทีม New Orleans Pelicans โดยหนังสือจะสอนเราอ่านค่าผลการทดสอบการกระโดดจาก Force plate เเล้วมาบอกว่าเราจะเอาข้อมูลนั้นมาทำอะไร หรือปรับปรุงโปรเเกรมของทีมหรือนักกีฬาคนนั้นยังไงได้บ้าง ซึ่งปัจจุบันโปรเเกรมที่ผมซ้อมอยู่ ก็ได้ไอเดียจากหนังสือเล่มนี้เหมือนกัน
https://youtu.be/BQbE7BrdO9w?si=YGet8SQlgrsbHpI8
ก่อนจะเข้าเรื่องว่าทำไม Kevin Durant ต้องมาทำ Test ก่อนการเเข่ง เราต้องมารู้จักกับ Force Plate ก่อนครับ
Force Plate คืออะไร ?
– Force Plate เป็นอุปกรณ์หน้าตาคล้ายๆเครื่องชั่งน้ำหนักทรสี่เหลี่ยม มีหน้าที่ใช้วัดเเรงที่กระทำต่อพื้นในขณะเคลื่อนไหวหรือทำท่าออกกำลังกาย หรือที่เราเรียกเเรงนั้นว่า “Ground Reaction Force” นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น หากนักกีฬายืนนิ่งบน Force Plate ตัวเเรงที่วัดได้ก็จะออกมาเท่ากับตัวน้ำหนักของนักกีฬา เเต่ถ้าอยู่ดีๆนักกีฬากระทืบพื้นเเรงๆ ตัว Force ที่วัดได้ก็จะมีค่าสูงขึ้น เเละถูกเเสดงออกมาเป็นกราฟให้เราวิเคราะห์เเละบันทึก
Force Plate บอกอะไรได้บ้าง
– Force ที่วัดออกมาจากเครื่องนี้ สามารถเเปลงเป็นข้อมูลได้หลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับว่าเราดึงข้อมูลอะไรออกมา เช่น การทดสอบกระโดด อาจบอกได้ว่า ผู้ทดสอบมีการออกเเรงข้างซ้ายหรือขวาเเตกต่างกันไหม มีการทำจังหวะ Eccentric หรือช่วงย่อตัวลงช้าหรือเร็ว หรือจะใช้วัดความสูงในการกระโดดก็ได้ หรือจะเป็นการทดสอบ Strength อย่างการทำ Isometric mid thigh pull (IMTP) ก็สามารถบอกได้ว่าเรามี Peak force หรือเเรงสูงสุดเท่าไหร่ หรือ เวลา/อัตราการสร้างเเรงไปถึงจุดนั้นเร็วมากน้อยเเค่ไหน เป็นต้น
Force Plate testing/monitoring ในนักกีฬา NBA
– งานของฝั่ง Strength&Conditioning หรือ Sports Science ในทีมกีฬามีเป้าหมายหลักๆคือ เพิ่ม Performance หรือสมรรถภาพทางกายของนักกีฬาผ่านการวางเเผนเเละฝึกซ้อม รวมทั้งการ manage ปัจจัยต่างๆรอบตัวนักกีฬา เพื่อให้วันเเข่งสภาพร่างกายหรือความพร้อมออกมาสมบูรณ์ที่สุด (High Readiness)
– ซึ่งตัว Force Plate เป็นหนึ่งใน “เครื่องมือ“ ที่จะช่วยตรงส่วนนี้ เเละ “หนึ่งในวิธี” ที่ผมจะมาเเชร์วันนี้ คือการทำ Jump assessment
– หากเรามองการเคลื่อนไหวที่ถูกเเสดงออกมาในกีฬาบาสเกตบอล ก็คงหนีไม่พ้นการวิ่ง การกระโดด การเปลี่ยนทิศทาง
– ซึ่งการทำ Jump Assessment นั้นเป็นการให้นักกีฬากระโดดบน Force Plate เหมือนในรูปเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆมาใช้เพื่อเป้าหมายหลักๆคือ
1.Monitor Progress หรือติดตามผลตลอดทั้งฤดูกาลการ เช่น ช่วง Training Camp ก่อนเปิดฤดูกาล นักกีฬากระโดดสูงกี่เซนติเมตร หลังเปิดฤดูกาลแล้วเป็นยังไง โดดเตี้ยลงหรือเปล่า ถ้าเตี้ยลงเพราะอะไร ซ้อมหนักไป? Recovery ไม่ถึง? หรือ Minute play เยอะไป? ต้องปรับลงไหม เดี๋ยวจะยกเอาไว้อธิบายในช่วงท้ายนะครับ
2. Programming Intervention หรืออธิบายง่ายๆคือ เอาผลการทดสอบ มาปรับโปรแกรมให้เหมาะกับนักกีฬาคนนั้นมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในการกระโดดจะประกอบไปด้วย 3 Phase คือ Eccentric , Amortization, Concentric หากทดสอบแล้วพบว่านักกีฬา มีจังหวะ Eccentric ที่ช้าไป อาจต้องปรับโปรเเกรมซ้อมมาเน้นตรงช่วงนี้ เช่น ฝึก Landing จากกล่องสูงๆ หรือทำ Drop squat หนักๆ เป็นต้น
.
.
หลังจากที่ทุกคนเข้าใจเเล้วว่า Force Plate ถูกใช้งานด้วยเป้าหมายหลัก 2 อย่าง ทีนี้ก็คงจะเดาได้เเล้วว่า Kevin Durant กำลังทำอะไรอยู่หน้าสนามก่อนเเข่ง
คำตอบก็คือ เป็นการ Monitor Progress นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะได้ติดตามผลเเล้ว ยังเป็นการบอก Readiness ของนักกีฬาได้ด้วย เช่นบอกว่านักกีฬาล้า (Fatigue) มากน้อยเเค่ไหน เพราะในการเเข่งขัน ความล้าอาจทำให้นักกีฬาแสดงฝีมือออกมาได้ไม่เท่ามาตรฐานตัวเอง หรือมีการตัดสินใจที่ช้าลง ซึ่งเราก็จะเก็บข้อมูลนี้เพื่อเป็นการตาม Training Load จะได้เอามาวางแผนการซ้อมหรือการ Recovery ต่อจากนี้ได้
ทีนี้เรามาดูกันว่า Force plate มีค่าอะไรบ้างที่บ่งบอกถึง Readiness หรือความพร้อมของสภาพร่างกายนักกีฬาบ้าง
1. Jump Height หรือความสูงจากการกระโดด หากนักกีฬาทำออกมาได้ต่ำกว่าจุด Threshold ที่ตั้งไว้ หรือมี Trend ที่ลดลง เราอาจพิจารณาได้ว่า 1.นักกีฬามีเเรงระเบิดลดลง อาจจะเพราะโปรเเกรมซ้อใม่ดี 2.นักกีฬามีสภาวะ Unmotivated อาจจะมาจากสภาพจิตใจ 3.นักกีฬาล้า (Fatigue) หรืออาจจะมาจากทั้ง 3 ข้อนี้เลยก็ได้ อย่างไรก็ตามบางครั้งผลทดสอบเราอาจจะเห็นนักกีฬากระโดดสูงเท่าเดิม แต่นักกีฬาอาจจะอยู่ในสภาวะล้าก็ได้ เพียงเเต่เราอาจจะเห็นสัญญาณความล้ามาจาก Test ตัวอื่น นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราควรมองค่าอื่นๆด้วย ไม่ใช่มากจาก Jump height อย่างเดียว
2. Duration เมื่อนักกีฬาอยู่ในสถานะที่ล้า (Fatigue) ระยะเวลาที่ใช้ในการกระโดดเพื่อจะลอยจากพื้น ก็จะนานขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการวัดช่วง Contraction time จึงเข้ามาช่วยตรงนี้ได้ เช่น ระยะเวลาตั้งเเต่ยืน > ย่อ > ดีดตัวจนขาลอยจากพื้น จาก 1.5 วินาที เป็น 2 วินาที ก็อาจพิจารณาได้ว่าล้า อย่างไรก็ตามเราควรวิเคราะห์ไปถึงว่า Phase ไหนของการกระโดดที่มันช้าลง ซึ่งโดยส่วนมากจะพบว่ามาจากจังหวะ Eccentric หรือจังหวะย่อลง ที่ช้าจะลง หากเทียบกับ Phase อื่น
3. RSIMOD เป็นค่าหรือ Metric อย่างหนึ่งที่เกิดจากการเอาข้อ 1 กับ 2 มารวมกัน กล่าวคือ หากนักกีฬากระโดดสูง เเละใช้เวลาโดดน้อย(เทคตัวเร็วน่ะเเหละ) ค่า RSImod ก็จะสูงขึ้นตาม ตรงกันข้ามหากนักกีฬากระโดดเตี้ยลงเเละใช้เวลานานขึ้น ค่า RSImod ก็จะน้อยลงตามสัดส่วนซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความล้า (Fatique)หรืออาจจะซ้อมไม่ถึง (Detraining) โดยทั่วไปค่า RSImod มันจะสูงขึ้นในช่วงใกล้เเข่ง หรือช่วง Peaking น่ะแหละ เพื่อให้นักกีฬามีสภาพพร้อมที่สุดก่อนการลงเเข่ง
4. Time to Peak Force (TfPF) ปกติเเล้ว Peak force ของการกระโดดนั้น กราฟจะออกมาคล้ายๆกับท่า Squat คือจุดที่ต่ำสุดหรือช่วงที่เรากำลังจะดีดตัวขึ้นหลังจากการย่อ จะเป็นจุดที่เกิด Peak Force ซึ่ง TfPF ก็เป็นหนึ่งในวิธีวัดความล้า หรือผลของการซ้อมเหมือนข้ออื่นๆนั่นเเหละ โดยจะเหมือนข้อที่ 2 คือ TfPF จะต่ำหากนักกีฬาล้า หรือก็คือนักกีฬาสร้างเเรงออกมาได้ช้ากว่าปกตินั่นเอง หรือหากมองลึกลงไป บางคน TtPF ต่ำลงไม่พอ ตัว Peak force ก็ต่ำลงด้วย ผลลัพธ์ก็อาจทำให้กระโดดเตี้ยลง
เป็นไงบ้างครับกับบทความนี้ อาจจะดูลึกๆงงๆบ้าง เเต่ผมอยากเเชร์ให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีพวกนี้ ว่ามันช่วยอะไรบ้าง กับการเเข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการ Monitoring หรือติดตามผล หรือจะเป็นเรื่องการเอาข้อมูลที่ได้มาวางโปรเเกรมฝึกเฉพาะตัวบุคคล ตอนอ่านก็รู้สึกว่า ต่างประเทศเขาไปไกลกันมาก ซักวันหนึ่งหากมีโอกาส ผมก็อยากนำ Force plate มาใช้เหมือนกันครับ555
Ponrawee Termkla NASM-PES / EXOS-XPS : Strength and Conditioning Coach
#atpperformance#strengthandconditioning#nba#forceplate#บาสเกตบอล#strengthtraining

ดูข้อมูลเชิงลึกและโฆษณา
ความรู้สึกทั้งหมด
125Sorawis Suebpong และ คนอื่นๆ อีก 124 คน


ใส่ความเห็น